SAT คืออะไร

SAT (Scholastic Aptitude Test or Scholastic Assessment Test) ปัจจุบันจะเรียกกว่า The digital SAT

เป็นการทดสอบแบบดิจิทัลผ่านคอมพิวเตอร์หรือแท็บเล็ต เพื่อวัดผลและประเมินผลทางความรู้ ความถนัดทางวิชาการ พัฒนาโดย College Board ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 การอ่านและการเขียน (Reading and Writing) และส่วนที่ 2 คณิตศาสตร์ (Math)

SAT สอบอะไรบ้าง มีโครงสร้างอย่างไร

ข้อสอบ SAT จะใช้เวลาทั้งหมดรวม 2 ชั่วโมง 14 นาที โดยแบ่งเป็น SAT Reading and Writing (RW) การอ่านและการเขียน ใช้เวลารวม 64 นาที ครอบคลุมเนื้อหาต่างๆ ได้แก่ วรรณคดี วิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์และบทความเชิงวิชาการ และ SAT Math คณิตศาสตร์ ใช้เวลารวม 70 นาที ครอบคลุมเนื้อหาต่างๆ ได้แก่ Algebra (พีชคณิต) Problem Solving and Data Analysis (การวิเคราะห์ปัญหาและข้อมูล) Advanced Math (คณิตศาสตร์ขั้นสูง) Geometry and Trigonometry (เรขาคณิตและตรีโกณมิติ)

การสอบในแต่ละส่วนจะแบ่งออกเป็น 2 โมดูลที่มีความยาวเท่ากัน และมีช่วงพัก 10 นาทีระหว่าง Reading & Writing และ Math ลักษณะข้อสอบ SAT จะเป็นแบบ Adaptive Testing ซึ่งข้อสอบจะปรับระดับความยากง่ายตามความสามารถของผู้สอบ โมดูลแรกของแต่ละส่วนจะมีคำถามแบบง่าย ปานกลาง และยาก โดยคำถามในโมดูลที่สองจะยากขึ้นหรือยากน้อยลง ขึ้นอยู่กับผลการทำข้อสอบของนักเรียนในโมดูลแรก คำถามโดยส่วนใหญ่จะเป็นแบบปรนัย แต่บางข้อที่เป็นคณิตศาสตร์จะให้ทำการป้อนคำตอบแทนการเลือกคำตอบ

ข้อสอบ	เวลาที่กำหนด (นาที)	จำนวนคำถาม
Reading & Writing	64 นาที (2 โมดูลๆ ละ 32 นาที)	54 ข้อ (2 โมดูลๆ ละ 27 ข้อ)
Math	70 นาที (2 โมดูลๆ ละ 35 นาที)	44 ข้อ (2 โมดูลๆ ละ 22 ข้อ)
รวม	134 นาที	98 ข้อ

คะแนนสอบ SAT

คะแนนสอบรวมจะอยู่ที่ 400-1600 คะแนน โดยแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก คือ Reading & Writing 200-800 คะแนน และ Math 200-800 คะแนน ซึ่งผลสอบจะออกภายใน 2 สัปดาห์หลังสอบ สามารถตรวจผลสอบได้ผ่านบัญชีที่ลงทะเบียนกับ College Board ในการส่งคะแนนสอบไปยังมหาวิทยาลัยที่ต้องการนั้น สามารถทำการเลือกส่งได้ฟรี 4 มหาวิทยาลัย โดยกรอกข้อมูลระหว่างสมัครสอบ และจะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมประมาณ $14 USD (470 บาท) ต่อมหาวิทยาลัย หากต้องการส่งคะแนนเพิ่มเติม

SAT สอบวันไหนบ้าง

การสอบ SAT นั้น จะมีประมาณ 7 ครั้งต่อปี เดือนละ 1 ครั้ง ได้แก่ มีนาคม พฤษภาคม มิถุนายน สิงหาคม กันยายน ตุลาคม และพฤศจิกายน ทั้งนี้ กำหนดการอาจมีการเปลี่ยนแปลง หมั่นตรวจสอบข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ของ College Board (วันสอบ SAT https://satsuite.collegeboard.org/sat/dates-deadlines) ที่นั่งสอบอาจเต็มอย่างรวดเร็ว การเตรียมตัวและสมัครสอบล่วงหน้าจะช่วยให้น้องๆ มีโอกาสเลือกวันสอบและสถานที่สอบที่สะดวกที่สุด

สถานที่สอบ SAT

สถานที่สอบนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นโรงเรียนนานาชาติ และมหาวิทยาลัยในประเทศไทย ซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลและเพิ่มเติมได้ น้องๆควรหมั่นตรวจสอบข้อมูลสถานที่สอบล่าสุดจากเว็บไซต์ของ College Board (สถานที่สอบ https://satsuite.collegeboard.org/sat/test-center-search)

หรือศูนย์สอบที่เกี่ยวข้องก่อนการสมัครสอบ สถานที่สอบต่างๆ ได้แก่

Bangkok International Preparatory and Secondary School ซอยสุขุมวิท 53 เขตวัฒนา
Anglo Singapore International School สุขุมวิท ซอย 31 เขตวัฒนา
IPS: International Pioneers School ซอยราษฎร์ร่วมเจริญ ถนนเจริญนคร เขตคลองสาน
The Regent’s International School, Bangkok ถนนประชาอุทิศ เขตวังทองหลาง
Wells International School – On Nut ถนนสุขุมวิท เขตพระโขนง
Faculty of Liberal Arts สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เขตลาดกระบัง
Bangkok Patana School โรงเรียนบางกอกพัฒนา ถนนลาซาล เขตบางนา
และสถาบันอื่นๆ อีกมากมาย

ค่าธรรมเนียมการสอบ SAT

ปัจจุบันค่าธรรมเนียมการสอบ SAT นั้น จะมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย โดยอยู่ที่ $68 USD หรือประมาณ 2,300 บาท และอาจมีค่าธรรมเนียมอื่นๆ เพิ่มเติม สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ College Board https://satsuite.collegeboard.org/sat/registration/fees-refunds/test-fees

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการสอบ และคอร์สเรียน SAT ได้ที่ UpGrade English School (อาคารเดอะเซ้นส์ปิ่นเกล้า ชั้น 2) Tel: 02-8848484 หรือ Line: @upgradepinklao แล้วพบกันนะคะ